โครงการนี้เกิดขึ้นโดยกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้การสนับสนุนจากยูนิเซฟ เพื่อนำการศึกษาขั้นประถมศึกษาไปสู่เด็กกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร โดยมีเป้าหมายคือการให้เด็ก ๆ อ่านเขียนภาษาไทยและคิดเลขได้ ตลอดจนเรียนรู้การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ และการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นของตน ปัจจุบัน มีเด็กวัยประถมทั้งหมด 472 คนที่เรียนอยู่ใน 17 ห้องเรียนหย่อมบ้านและมีครูทั้งสิ้น 41 คน

ในประเทศไทย เด็กที่ไม่ได้พูดภาษาไทยเป็นภาษาหลักต้องเผชิญกับปัญหาในการเรียน ยูนิเซฟและพันธมิตรจึงได้ออกแบบและพัฒนาหลักสูตรทวิ-พหุภาษาในโรงเรียนนำร่องโดยใช้ภาษาแม่ของเด็ก ๆ เป็นพื้นฐาน เช่น ภาษามลายูถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อช่วยให้เด็กเข้าใจบทเรียนมากยิ่งขึ้น และเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาของนักเรียนในประเทศไทย

การปิดสถานศึกษาที่ยาวนานได้ส่งผลกระทบในการเรียนรู้และผลเสียในระยะยาวต่อชีวิตของเด็ก ยูนิเซฟจึงจัดโครงการ “กล่องมหัศจรรย์” บรรจุหนังสือเด็ก ของเล่นเสริมทักษะ และอุปกรณ์การเรียนรู้ จัดส่งไปยัง 1,000 ครอบครัวที่มีเด็กอายุน้อยกว่า 6 ปีทั้งในชุมชนไทยและชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 เพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในระหว่างที่อยู่บ้านกับผู้ปกครอง

ในปีพ.ศ. 2558 ยูนิเซฟร่วมกับพันธมิตรริเริ่มโครงการ “ห้องสมุดเคลื่อนที่” เพื่อนำหนังสือสำหรับเด็กไปยังพื้นที่ห่างไกลทางตอนเหนือของประเทศ โดยรถห้องสมุดแต่ละคันบรรจุหนังสือกว่า 1,200 เล่มพร้อมกับเจ้าหน้าที่บริการสื่อและพนักงานขับรถวิ่งไปยังโรงเรียนในหุบเขา ปัจจุบันมีห้องสมุดเคลื่อนที่ 7 คันวิ่งไปตามโรงเรียน 51 แห่งเพื่อนำหนังสือไปสู่เด็กชั้นอนุบาลและประถมศึกษากว่า 2,500 คน และผู้ปกครองกว่า 5,000 คน

โครงการนี้เกิดขึ้นโดยกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้การสนับสนุนจากยูนิเซฟ เพื่อนำการศึกษาขั้นประถมศึกษาไปสู่เด็กกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร โดยมีเป้าหมายคือการให้เด็ก ๆ อ่านเขียนภาษาไทยและคิดเลขได้ ตลอดจนเรียนรู้การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ และการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นของตน ปัจจุบัน มีเด็กวัยประถมทั้งหมด 472 คนที่เรียนอยู่ใน 17 ห้องเรียนหย่อมบ้านและมีครูทั้งสิ้น 41 คน

ในประเทศไทย เด็กที่ไม่ได้พูดภาษาไทยเป็นภาษาหลักต้องเผชิญกับปัญหาในการเรียน ยูนิเซฟและพันธมิตรจึงได้ออกแบบและพัฒนาหลักสูตรทวิ-พหุภาษาในโรงเรียนนำร่องโดยใช้ภาษาแม่ของเด็ก ๆ เป็นพื้นฐาน เช่น ภาษามลายูถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อช่วยให้เด็กเข้าใจบทเรียนมากยิ่งขึ้น และเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาของนักเรียนในประเทศไทย